InnovationTOP STORIES

ดีแทคและเอบีบีร่วมพัฒนาการเชื่อมต่อความเร็วสูงสำหรับระบบออโตเมชั่นเพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรมยุค 4.0

0

 

บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และ เอบีบี ประเทศไทย ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อพัฒนาโซลูชั่นสำหรับ ABB Robotics และ ABB Remote Insights ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโครงข่ายดีแทค

ความร่วมมือระหว่างดีแทค- เอบีบีในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะยกระดับอุตสาหกรรมและธุรกิจของไทย รวมทั้งสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ให้กับกลุ่มธุรกิจในภาคการผลิตและอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจที่มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยี 5G กับหุ่นยนต์ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญของเอบีบีกับเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงโครงข่ายดีแทคจะสามารถเพิ่มศักยภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

โดย 2 โซลูชั่นแรกจะถูกสร้างบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและ 5G โครงข่ายส่วนตัว (dtac 5G Private Network) ของดีแทค ที่จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในระดับสูงสุด ซึ่งหุ่นยนต์จากเอบีบีจะเข้ามาเสริมในเรื่องของความปลอดภัยและสามารถทำงานร่วมกันกับมนุษย์ภายในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วย Remote Insight จากเอบีบีจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบการทำงานในโรงงานได้ทันทีแบบเรียลไทม์ทุกที่ทุกเวลา

นายเจียนอังเดร บรุซโซเน Country Managing Director กลุ่มบริษัท เอบีบี ประเทศไทย กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกยินดีที่ได้เป็นพันธมิตรกับดีแทคร่วมผลักดันอุตสาหกรรมของไทย โดยเอบีบีเป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์ อุปกรณ์เสริมและแอปพลิเคชั่นในการใช้งาน และได้ให้บริการมากถึง 53 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันเราได้ติดตั้งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมไปแล้วมากกว่า 500,000 โซลูชั่น โดยเอบีบีมีความเชี่ยวชาญในกลุ่มธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับความความร่วมมือในครั้งนี้ที่ต้องการใช้ศักยภาพของเครือข่าย dtac 4G/5G ในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ผ่านกลุ่มธุรกิจภาคอุตสาหกรรม จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในการพัฒนาและต่อยอดสู่ ABB Solution เพื่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในประเทศไทย”

นายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ความท้าทายของอุตสาหกรรมไทย คือ การที่วันนี้ต้องเร่งนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาปรับใช้เพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตครั้งใหญ่ และใช้การเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีความเร็วสูง ซึ่งหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่มาพร้อมกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรวมถึง 5G โครงข่ายส่วนตัว (5G Private Network) จะทำให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมไทย และก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน รวมถึงจะสามารถดึงดูดให้นักลงทุนเลือกย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทย เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเอบีบี”

เตรียมพร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยด้วย 2 ปัจจัยสำคัญ

1. ความร่วมมือ ABB Robotics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ ABB Collaborative Robot ซึ่งเป็น Solution ของกลุ่มธุรกิจ Robotics & Discrete Automation บนโครงข่ายส่วนตัว dtac 5G Private Network เพื่อทดสอบการใช้หุ่นยนต์และแขนกลอัตโนมัติสำหรับนำไปใช้งานในกลุ่มธุรกิจภาคอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่เฉพาะ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมจำกัดที่เป็นอันตราย โดยการเชื่อมต่อกับโครงข่ายของดีแทคจะเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่ควบคุมได้แบบเรียลไทม์ แม่นยำ และปลอดภัยในการรับส่งข้อมูล ที่สำคัญ 5G มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองที่รวดเร็ว หุ่นยนต์จึงสามารถทำงานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงได้ ในขณะที่ผู้ควบคุมสามารถสั่งงานจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

2. ความร่วมมือ ABB Remote Insights เพื่อพัฒนาและต่อยอดโซลูชั่นของกลุ่มธุรกิจ Process Automation ร่วมกับโครงข่ายดีแทค 4G/5G ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วไทย เพื่อนำไปใช้งานในภาคอุตสาหกรรมการผลิดที่มีความต้องการโซลูชั่นที่เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน โดยแอปพลิเคชันที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารโต้ตอบระยะไกลระหว่างผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ จะใช้เทคโนโลยีการแสดงภาพเสมือนจริง หรือ Augmented Reality (AI) บนโครงข่ายดีแทคในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเพื่อการแก้ไขปัญหาแบบเรียลไทม์

The Incubation Network ช่วยสตาร์ทอัปแก้ปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทร

Previous article

‘Made to Last’ การเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืนจาก Mulberry สู่การเป็นผู้นำแบรนด์แฟชั่นและเครื่องหนังรักษ์โลก

Next article

You may also like

More in Innovation