หุ้นยั่งยืนมีกี่ระดับ

หุ้นยั่งยืนหรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ยั่งยืนมักถูกจัดประเภทตามเกณฑ์หรือระดับต่างๆ ของความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ไม่มีระบบจัดระดับมาตรฐานสากลที่ทุกคนใช้ เนื่องจากการประเมินความยั่งยืนสามารถแตกต่างกันไปตามมุมมองและเกณฑ์ที่ใช้ แต่โดยทั่วไป หุ้นยั่งยืนสามารถพิจารณาจากมิติหลายประการ เช่น

  • ระดับที่ 1: หุ้นยั่งยืน (THSI) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนอย่างน้อย 50% ในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม หรือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Index (DJSI)
  • ระดับที่ 2: หุ้นยั่งยืนดีเด่น (THSI Plus) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนตั้งแต่ 70% ขึ้นไปในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม
  • ระดับที่ 3: หุ้นยั่งยืนโดดเด่น (THSI Excellence) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนตั้งแต่ 80% ขึ้นไปในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม

เกณฑ์การประเมินหุ้นยั่งยืน แบ่งออกเป็น 3 มิติ ดังนี้

  • มิติด้านเศรษฐกิจ พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ผลประกอบการ การเติบโตของรายได้ ความสามารถในการทำกำไร และการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น
  • มิติด้านสิ่งแวดล้อม พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • มิติด้านสังคม พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การปฏิบัติต่อพนักงาน การปฏิบัติต่อลูกค้า การปฏิบัติต่อชุมชน และการปฏิบัติต่อสังคมโดยรวม

การคัดเลือกหุ้นยั่งยืนดำเนินการโดยคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainability Investment Working Group) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยพิจารณาจากข้อมูลการตอบแบบประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลอื่นๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ

ทำอย่างไรถึงจะได้รางวัลหุ้นยั่งยืน

บริษัทจดทะเบียนที่ต้องการได้รับรางวัลหุ้นยั่งยืน ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
  • มีผลประกอบการและการดำเนินงานที่ดี
  • มีนโยบายและแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

บริษัทจดทะเบียนที่มีคุณสมบัติตามข้างต้น สามารถสมัครเข้าร่วมการประเมินหุ้นยั่งยืนได้ โดยจะต้องตอบแบบประเมินความยั่งยืน (Sustainability Report) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งครอบคลุม 3 มิติหลัก ได้แก่

  • มิติด้านเศรษฐกิจ พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ผลประกอบการ การเติบโตของรายได้ ความสามารถในการทำกำไร และการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น
  • มิติด้านสิ่งแวดล้อม พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • มิติด้านสังคม พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การปฏิบัติต่อพนักงาน การปฏิบัติต่อลูกค้า การปฏิบัติต่อชุมชน และการปฏิบัติต่อสังคมโดยรวม

บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับรางวัลหุ้นยั่งยืนตามระดับคะแนนที่ได้ ดังนี้

  • ระดับที่ 1: หุ้นยั่งยืน (THSI) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนอย่างน้อย 50% ในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม
  • ระดับที่ 2: หุ้นยั่งยืนดีเด่น (THSI Plus) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนตั้งแต่ 70% ขึ้นไปในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม
  • ระดับที่ 3: หุ้นยั่งยืนโดดเด่น (THSI Excellence) เป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีผลคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืนตั้งแต่ 80% ขึ้นไปในแต่ละมิติด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสังคม

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับรางวัลหุ้นยั่งยืน ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

  • ได้รับการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน
  • ได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างยั่งยืน
  • ได้รับโอกาสในการนำเสนอข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนต่อนักลงทุน

โดยสรุปแล้ว การทำอย่างไรถึงจะได้รางวัลหุ้นยั่งยืนนั้น บริษัทจดทะเบียนจะต้องดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยสามารถสมัครเข้าร่วมการประเมินหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตอบแบบประเมินความยั่งยืนให้ครบถ้วนและถูกต้อง

ติดตามข่าวสารและบทความเกี่ยวกับ The Sustain – ธุรกิจและความยั่งยืน พลังงาน ภาวะโลกร้อน ทรัพยากรธรรมชาติ

thesustain.space

Turnoff
นักเขียนอิสระหลากหลายธุรกิจ เขียนคอนเท้นท์ SEO ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี turnoffweb.com

พลังงานไฮโดรเจน ใช้กับอะไรได้บ้าง

Previous article

Technology ความยั่งยืนในปี 2024

Next article

You may also like

More in Bitesize