เทศกาลตรุษจีน 2567 ปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งวันตรุษจีนมีความสำคัญกับชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างมาก เป็นวันปีใหม่ของจีน ที่มีการนำอาหารมงคลมาไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ นอกจากนี้ยังมีการเผากระดาษเงิน กระดาษทองที่สื่อถึงความเคารพ และเพื่อความเป็นสิริมงคล

รู้ไหมว่าการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง รวมถึงการจุดประทัดวันตรุษจีนนั้น ในแต่ละครั้งจะปล่อยละอองฝุ่น PM2.5 ควันขี้เถ้า รวมถึงสารพิษต่างๆ ออกมา

สำรวจสารพิษที่แฝงอยู่ในกิจกรรม เทศกาลตรุษจีน

ในเทศกาลตรุษจีนจะมีการจุดธูปและเผากระดาษเงิน กระดาษทองที่สื่อถึงความเคารพและเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ในวันตรุษจีน อย่าง การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง กระดาษที่เป็นรูปสิ่งของต่างๆ การจุดประทัด รวมถึงการจุดธูป จะทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 และยังปล่อยสารพิษ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน และสารก่อมะเร็งหลายชนิด เช่น สารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนหรือสารพีเอเอช และสารอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น เบนซิน (Benzene) และ 1,3-บิวทาไดอีน (1,3-butadiene)

ในควันธูปมีสารอันตราย อย่าง สารเบนซีน (Benzene)1,3 บิวทาไดอีน (1,3-Butadiene) เบนโซเอไพรีน (Benzo(a)pyrene) เป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการเผาไหม้ของกาว ขี้เลื่อย และน้ำหอมในธูป  ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารก่อมะเร็ง อีกทั้งการเผาไหม้ของธูปยังปล่อยฝุ่น PM2.5 และก่อสารมลพิษอีกมากมาย

ส่วนขี้เถ้าจากการเผายังมีสารโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว แมงกานีส และพบโลหะหนักเหล่านี้อยู่ในขี้เถ้ามากกว่าฝุ่นละอองในอากาศประมาณ 3-60 เท่า หากสัมผัสหรือสูดดมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้

ภัยแฝงจากสารพิษในอุปกรณ์ไหว้เจ้า ส่งผลกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

จากการสำรวจอนามัยโพลเรื่องพฤติกรรมการใช้ธูป กระดาษเงินกระดาษทอง กับเทศกาลตรุษจีน ในช่วงปี 2562 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,657 คน พบว่า ในวันไหว้ตรุษจีน มีการจุดธูปร้อยละ 79 เผากระดาษเงินกระดาษทองร้อยละ 51 และเผาสิ่งประดิษฐ์จากกระดาษต่างๆ

เช่น โทรศัพท์ บ้าน รถ ร้อยละ 19 ยังพบอีกว่ามีบางส่วนยังมีพฤติกรรมการใช้ธูปและการเผาที่ไม่ถูกต้อง เช่น เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ถึงร้อยละ 98 โดยส่วนใหญ่เป็นการเผาจนหมดแล้วดับ และยังพบว่าผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนมีอาการถึงร้อยละ 97 โดยเฉพาะอาการแสบตา แสบจมูก คัดจมูก หายใจลำบาก  คันตา และปวดตา และยังไม่ได้มีการป้องกันถึงร้อยละ 54

นอกจากการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง การจุดธูป จุดประทัดจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมทำให้เกิดมลพิษทางอากาศแล้ว ยังส่งกระทบด้านสุขภาพอีกด้วย ซึ่งความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลาที่ได้รับสารนั้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าคนทั่วไป

เทศกาลตรุษจีน จุดธูป เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ก่อมลพิษกับโลก

วิธีฉลอง เทศกาลตรุษจีน อย่างสุขใจ ลดการสร้างมลพิษ

การฉลองเทศกาลตรุษจีนได้แบบสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพน้อยที่สุดมีหลายวิธี ดังนี้

  • ใช้ธูปที่มีขนาดสั้น เพื่อลดปริมาณการเผาไหม้ลดฝุ่น PM2.5  และลดการปล่อยสารพิษ
  • เผากระดาษเงิน กระดาษทองให้น้อยลง ขณะที่เผาต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น หรืออีกวิธีที่เข้ากับยุคดิจิตัลคือการเผากระดาษเงิน กระดาษทองแบบออนไลน์
  • การจุดธูปไหว้ควรจุดแล้วดับเลยหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น และควรจุดธูปนอกบ้านหรือที่อากาศถ่ายเท ควรยืนอยู่เหนือทิศทางลม
  • ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสธูปและกระดาษเงินกระดาษทองเพื่อป้องกันสารที่อยู่กับอุปกรณ์สัมผัสร่างกาย
  • ไม่ควรนอนหรือพักผ่อนบริเวณที่มีการจุดธูป เพราะฝุ่นละอองจากควันธูปอาจตกค้างบริเวณนั้น
  • กำจัดขี้เถ้าจากธูปและกระดาษเงิน กระดาษทอง โดยเก็บขี้เถ้า ใส่ถุง และส่งให้ท้องถิ่นรับไปกำจัดอย่างถูกวิธี

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก springnews

แฟชั่นรักษ์โลก! เสื้อผ้าหนังเทียมทำจากเปลือกกุ้ง ช่วยลดมลพิษและขยะอาหาร

Previous article

นำร่องใช้งาน ‘รถบัสไฟฟ้าไร้คนขับ’ คันแรกของไทย พาเที่ยวอยุธยา

Next article

You may also like

More in Life